UFABETWINS การตกชั้นของทีม ๆ หนึ่งล้วนมีเหตุผลมากมายประกอบ เหตุผลบางข้อก็ใหญ่จนน่าตกใหญ่ และเหตุผลบางข้อก็ดู “อิหยังวะ” จนไม่น่าเชื่อ
นี่คือเรื่องราวของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในฤดูกาล 2017-18 ที่กำลังอยู่ในทรงบอลดี ๆ อยู่แท้ ๆ แต่การเลือกไปเก็บตัวหนีหนาวที่เมือง บาร์เซโลน่า กลับทำให้เรื่องอลหม่านงานเก็บตัวสุดเละเทะเกิดขึ้น และมันลากยาวจนพวกเขาตกชั้นแบบไม่ต้องลุ้น เพราะไม่มีเบรกหนีหนาว ทุกอย่างเลยวุ่นไปหมด ปัญหาคลาสสิกของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คือพวกเขาให้ความสำคัญกับการตลาดมากเกินไป สำหรับสโมสรนั่นคือสิ่งที่ดี เพราะเป็นการได้เม็ดเงินมากมายมหาศาล
จากความสำคัญจุดนี้ อย่างไรก็ตาม โลกของทุนนิยมนั้นไม่เคยปราณีใคร สำหรับนักเตะและโค้ชในพรีเมียร์ลีก พวกเขาบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทำไมไม่มีช่วงเบรกหนีหนาว” นานมาแล้วที่ฟุตบอลอังกฤษแหกขนบลงสนามในช่วงที่ฤดูหนาวมาถึง หิมะตกกระหน่ำ อากาศเย็นเจี๊ยบเปรียบดังจุดเยือกแข็ง และที่สำคัญคือวันคริสต์มาส คือเทศกาลที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญเพราะเป็นเหมือนกับวันรวมญาติ แน่นอนว่าฟุตบอลอังกฤษไม่สนใจ ที่นี่แตกต่างกับที่อื่น ๆ สเปน, ฝรั่งเศส,
อิตาลี, เยอรมัน รวมถึงที่อื่น ๆ จะมีช่วงเบรกฤดูหนาวที่จะได้ให้เวลานักเตะพักราว ๆ 2 สัปดาห์ ในช่วงคริสต์มาสต่อปีใหม่ (เยอรมันลากยาวถึงราว 1 เดือนเลยด้วยซ้ำ) ซึ่งจุดนี้เอง หลายฝ่ายบอกว่าดีต่อนักเตะในระยะยาว เช่นเดียวกันกับผลงานในระดับทีมชาติในทัวร์นาเมนต์สำคัญ ๆ ซึ่งทำให้ร่างกายของนักเตะที่ได้พักเหล่านี้ มีความพร้อมมากกว่าทีมชาติอังกฤษ ที่นักเตะลงหวดกันกระหน่ำสูงสุดเกิน 60 เกมต่อฤดูกาล หลุยส์ ฟาน กัล อดีตกุนซือของ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยคุมทีมมากมายหลายระดับตั้งแต่สโมสรจนถึงทีมชาติ เคยบอกเอาไว้ว่า “ผมบอกเลยนะว่า การที่ไม่มีเบรกหนีหนาวคือวัฒนธรรมที่ชั่วร้ายสุดของฟุตบอลอังกฤษ” “มันส่งผลเยอะ ไม่ดีต่อสโมสร ส่งผลกระทบต่อทีมชาติ นี่แหละ ทั้งหมดคือเหตุผลที่ทีมชาติอังกฤษซบเซา ไม่เคยมีผลงานดี ๆ ในระดับนานาชาติมายาวนาน นักเตะของพวกเขาบี้กันจนพลังหมดหลอด พอถึงช่วงท้ายฤดูกาลก็หมดสภาพแล้ว” ฟาน กัล ว่าไว้สมัยคุมทีมปีศาจแดง
และไม่ใช่มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น นักเตะหลายคน โดยเฉพาะต่างชาติต่างลงคะแนนโหวตว่าพักหนีหนาว “ควรจะมี” แต่ก็นั่นแหละ ทุกวินาทีของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้นมีค่ามหาศาล ดังนั้นจึงหยุดไม่ได้ (ขนาดตอนที่ พรีเมียร์ลีก ตัดสินใจให้มีเบรกหนีหนาวครั้งแรกในฤดูกาล 2019-20 ยังเป็นไปแบบอิหลักอิเหลื่อ คือแบ่งโปรแกรมพักร้อนเป็นครึ่ง ๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้มีเกมแข่งขันอย่างต่อเนื่อง แถมแต่ละทีม ได้พักแค่ราว 1 สัปดาห์เท่านั้น)
และนั่นทำให้หากมีสโมสรใดคิดจะพานักเตะไปเก็บตัวในที่ที่อากาศอบอุ่น พวกเขาต้องคิดให้ดี เพราะมีกรอบของเวลาให้ไปเก็บตัวน้อยมาก มีเวลาให้จัดการตารางการซ้อมต่าง ๆ ไม่มากพอเหมือนกับช่วงปรีซีซั่น หรือทีมในลีกอื่น ๆ ที่ได้หยุดเกือบเดือนและรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องบริหารเวลาอย่างไร ซึ่งบางครั้งปัจจัยเรื่องเวลาและการวางแผนเหล่านี้ก่อให้เกิดข้อเสียมากกว่าข้อดี แถมเรื่องนี้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน สามารถอธิบายได้ เพราะพวกเขา ผ่านมาแล้ว
ยังไงก็ต้องไป พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017-18 เริ่มขึ้นเหมือนกับฝันสำหรับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมที่นำโดย โทนี่ พูลิส เปิดตัวด้วยการชนะ 2 เกมรวดเหนือ บอร์นมัธ และ เบิร์นลี่ย์ ทว่าหลังจากนั้น พวกเขาไม่ชนะใครอีกเลยจนกระทั่งถึงวันที่ 13 มกราคม รวมเป็นเวลาทั้งหมดกว่า 150 วัน ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการเปลี่ยนกุนซือไป 3 คนจาก พูลิส เป็น แกรี่ เม็กสัน และจบลงที่กุนซือผู้เป็นเซียนเรื่องหนีตกชั้นอย่าง อลัน พาร์ดิว โดยช่วงที่ พาร์ดิว เข้ามารับไม้ต่อนั้นคือ
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2017 ช่วงเวลาของ พาร์ดิว ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวสต์บรอมฯ มีโปรแกรมในลีก 13 เกม และแพ้ไป 7 เกม อาจจะเกินครึ่งของทั้งหมด แต่พวกเขายังพอมีทางรอดหากแก้ไขอะไรได้ทัน ดังนั้นมีช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะสุด ๆ ในช่วงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2018 เพราะทีมจะไม่มีโปรแกรมลงสนามในลีกราว 2 สัปดาห์ พาร์ดิว ที่เพิ่งพาทีมแพ้ เชลซี ไป 0-3 ขอเงินอัดฉีดจาก ไหล กัวฉวน ประธานสโมสรชาวจีน
เพื่อไปยังที่ที่เหมาะกับการซ้อมมากกว่า อย่างเมือง บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยขอใช้สถานที่ฝึกซ้อมของทีม เอสปันญอล เพราะที่นั่นอากาศอบอุ่น มีแดดจัด อุณหภูมิราว 17 องศาเซลเซียส และถือโอกาสให้นักเตะได้ใช้ชีวิตกินอยู่ร่วมกันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ในทีม อันเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้การอยู่รอดเป็นไปได้มากขึ้น บางที พาร์ดิว อาจจะได้ไอเดียนี้มาจาก ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ในยุค เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เพราะพวกเขาเคยมาที่สเปนและใช้สถานที่เก็บตัว
ของ เอสปันญอล เหมือนกัน ในฤดูกาล 2016-17 ก่อนที่ทัพไก่เดือยทองจะได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนั้น “มันเป็นสิ่งที่ผมฝันอยากจะทำมาตลอด และคิดว่ามันจะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก เรารอคอยที่จะได้รับตารางซ้อมกันใหม่ และไปสูดอากาศสดชื่นให้พร้อมสำหรับการแข่งขันที่รออยู่” “สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อากาศอบอุ่น เป็นบรรยากาศยอดเยี่ยมที่จะให้ผู้เล่นของเราได้มีโอกาสฝึกซ้อมกันอย่างมีคุณภาพ สเปอร์ส ก็เคยมาที่นี่เหมือนกันนะ
หลังจากลับไปพวกเขาวิ่งกันเป็นม้าเลย” พาร์ดิว พูดก่อนออกเดินทางไปยังศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสร เอสปันญอล โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส กุนซือของทีมนกแก้วที่เคยมีประสบการณ์ทำงานในอังกฤษมาก่อน อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ถ้าไปซ้อมด้วยตารางกิจกรรมที่แน่ชัด วางแผนที่แน่นอนมันก็คงจะดี แต่ทริปนี้ของ เวสต์บรอมฯ ดันเป็นทริปแบบปุบปับทัวร์ อยากไปก็ไปเลย แถมมีกำหนดเวลาแค่ 3-4 วัน ก่อนกลับมาลงสนามต่อในเกม
เอฟเอคัพ ที่จะเปิดบ้านพบ เซาธ์แฮมป์ตัน วันที่ 17 กุมภาพันธ์ (ทั้ง ๆ ที่หลังจบเกมดังกล่าว จะมีช่วงว่างถึงราว 1 สัปดาห์ ก่อนกลับมาลงแข่งเกมลีก วันที่ 24 กุมภาพันธ์) ดังนั้นนักเตะหลายคนยังงง ๆ กับโปรแกรมที่เกิดขึ้น หลายคนไม่อยากไป และบางคนก็ชอบใจ เพราะมีใครบ้างที่ไม่ชอบไปเที่ยวแบบฟรี ๆ ? ปิดหนีหนาวแห่งหายนะ Dream Team สำนักข่าวภายใต้สังกัดของ The Sun สื่อจอมมั่วเรื่องซื้อขายแต่ “โคตรแม่น” ในเรื่องของข่าวซุบซิบวงใน,
ความแตกแยก ตลอดจนเรื่องอื้อฉาว ยืนยันทันทีว่าทริปนี้ พาร์ดิว ออกแนวเหมือนอยากไปเที่ยวมากกว่า และเขาพร้อมจะทำทุกอย่างที่คิดว่าดี เพราะเบื้องหลังการรับงานของเขา คือหาก พาร์ดิว พาทีมรอดตกชั้นได้ เขาจะได้รับโบนัสจากเจ้าของชาวจีนถึง 1 ล้านปอนด์ ! ขณะที่นักเตะในทีมหลายรายเกิดอาการ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า ?” อย่าลืมว่านักเตะอังกฤษนั้นแทบไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวเลยถ้าไม่ใช่ช่วงซัมเมอร์ ช่วงคริสต์มาสก็ต้องเล่น บ็อกซิ่งเดย์ก็ต้องแข่ง
คืนข้ามปีก็ต้องหวด ดังนั้นพวกเขาเกิดความคิดว่าไหน ๆ ก็หยุดเกือบ 2 สัปดาห์ทั้งที ทำไมไม่ซ้อมตามโปรแกรมเดิมที่สโมสร และหลังจากซ้อมเสร็จ พวกเขาจะได้มีเวลาให้กับครอบครัวบ้าง สำหรับบางคน นั่นต่างหากคือการพักผ่อนที่แท้จริง แสงแดดก็ดี แต่ก็ใช่ว่าจะการันตีว่ามันจะเยียวยาทุกคนได้ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่นักเตะเวสต์บรอมฯ ณ เวลานั้น
คลิ๊กเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านข่าวเพิ่ม >>> บ้านผลบอล