ชั่วโมงนี้เจ้าหนู เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าดาวรุ่งชาวอังกฤษ กำลังมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสุดๆกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากเพิ่งซัดสองประตู ช่วย “ปีศาจแดง” เปิดรังถล่ม บอร์นมัธ 5-2 ทำให้เจ้าตัวทำไปแล้ว 8 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 26 เกมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แน่นอนจากความยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้ดาวเตะวัย 18 ปี ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากทั้งสื่อและแฟนบอล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีก ก็มีนักเตะดาวรุ่งที่ทำผลงานได้โดดเด่นมากมาย และเมื่อนำสถิติของ กรีนวู้ด ไปเทียบกับอดีตดาวรุ่งที่เคยโชว์ผลงานสุดยอดและอยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันจะเป็นอย่างไรนั้นเรารวบรวมมากฝากกัน
เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยูไนเต็ด) – 2019/20
ลงเล่น : 26 นัด
ตัวจริง : 7 นัด
สำรอง : 19 นัด
ประตู : 8 ลูก
แอสซิสต์ : 1 ครั้ง
ค่าเฉลี่ยทำประตูต่อนาที : 114.8
ค่าเฉลี่ยทำแอสซิสต์ต่อนาที : 102.1
ฤดูกาลนี้ถือเป็นปีที่ กรีนวู้ด ได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องซึ่งแตกต่างจากซีซั่นที่แล้วหลังก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกและได้ลงเล่นพียง 3 เกมเท่านั้น อย่างไรก็ดีซีซั่นนี้เจ้าตัวก็ตอบแทนความไว้วางใจของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จนแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวไปเป็นที่เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน กรีนวู้ด ยังทำสถิติเป็นนักเตะดาวรุ่งของ “ปีศาจแดง” คนแรกที่ยิงได้ถึง 15 ประตูทุกรายการฤดูกาลเดียวในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา หลัง เวย์น รูนี่ย์ เคยทำไว้ได้ 17 ประตู เมื่อซีซั่น 2004/05 อีกด้วย
นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีโอกาสทำลายสถิติของ รูนี่ย์ ที่ยิงได้ 9 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2003/04 หลังกองหน้าวัย 18 ปี ทำไปแล้ว 8 ประตู โดยขออีกแค่ 2 ลูกก็จะกลายเป็นนักเตะอายุไม่เกิน 19 ปีของทีมที่ยิงในลีกมากสุดซีซั่นเดียว
มาคัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด) – 2015/16
ลงเล่น : 11 นัด
ตัวจริง : 11 นัด
สำรอง : 0 นัด
ประตู : 5 ลูก
แอสซิสต์ : 2 ครั้ง
ค่าเฉลี่ยทำประตูต่อนาที : 172.2
ค่าเฉลี่ยทำแอสซิสต์ต่อนาที : 123
.jpg)
แรชฟอร์ด ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2015 ด้วยวัย 17 ปี ก่อนจะระเบิดฟอร์มเก่งจนแจ้งเกิดได้ทันทีในยุคของกุนซือ หลุยส์ ฟานกัล พร้อมกับทำไป 8 ประตูจากการลงเล่น 18 เกมทุกรายการโดยแบ่งเป็นในลีก 5 ประตู
เวย์น รูนีย์ (เอฟเวอร์ตัน) – 2002/03
ลงเล่น : 33 นัด
ตัวจริง : 14 นัด
สำรอง : 19 นัด
ประตู : 6 ลูก
แอสซิสต์ : 0 ครั้ง
ค่าเฉลี่ยทำประตูต่อนาที : 264.3
ค่าเฉลี่ยทำแอสซิสต์ต่อนาที : 264.3
รูนีย์ เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมเยาวชนของ เอฟเวอร์ตัน ในอายุ 9 ขวบ ก่อนจะทำผลงานโดดเด่นจนได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2002 ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น และมีโอกาสลงเล่นถึง 33 นัดในลีกพร้อมกับทำได้ 6 ประตู จนเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองสุดๆในเวลานั้น
นิโกล่าส์ อเนลก้า (อาร์เซน่อล) – 1997/98
ลงเล่น : 26 นัด
ตัวจริง : 16 นัด
สำรอง : 10 นัด
ประตู : 6 ลูก
แอสซิสต์ : 6 ครั้ง
ค่าเฉลี่ยทำประตูต่อนาที : 248.8
ค่าเฉลี่ยทำแอสซิสต์ต่อนาที : 124.4
อดีตแข้งจอมพเนจรเริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งกับ เปแอชเช ก่อจะฉายแววเด่นสมัยเป็นดาวรุ่ง จนถูก อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล ในเวลานั้นคว้าตัวมาร่วมทีม ด้วยค่าตัวเพียง 5 แสนปอนด์เท่านั้นในปี 1996 โดยอยู่ในวัย 17 ปี แต่ก็มีโอกาสลงเล่นเพียง 4 เกมเท่านั้น และยังทำประตูไม่ได้
อย่างไรก็ตามในปีถัดมาเจ้าตัวได้ลงเล่นมากขึ้น และทำได้ 6 ประตูจากการลงเล่น 26 เกมในลีก พร้อมมีส่วนช่วย “ปืนใหญ่” คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ ก่อนจะอำลาทีมไปในฤดูกาล 1999
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล) – 1993/94
ลงเล่น : 28 นัด
ตัวจริง : 27 นัด
สำรอง : 1 นัด
ประตู : 12 ลูก
แอสซิสต์ : 0 ครั้ง
ค่าเฉลี่ยทำประตูต่อนาที : 197.6
ค่าเฉลี่ยทำแอสซิสต์ต่อนาที : 197.6
ตำนานดาวยิง ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญาอาชีพกับ “หงส์แดง” ในปี 1992 ด้วยวัย 17 ปี ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในปีถัดมา และฉายแววเด่นได้ทันทีด้วยการซัดำปถึง 12 ประตู จากการลงเล่น 28 เกมในลีก
หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าตัวก็รักษาฟอร์มเก่งต่อเนื่องจนกลายเป็นกำลังสำคัญของทีม ก่อนจะยุติเส้นทางในถิ่นแอนฟิลด์ 9 ปีเต็ม ย้ายไปอยู่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในปี 2001
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านเพิ่มเติม >>> https://www.executivelimousines-carhire.com/